8:00 - 17:00
Mon - Sat
พีเอซี คือ พอลิอะลูมิเนียมคลอไรด์ เป็นของเหลว จึงเรียกเป็น พอลิอะลูมิเนียมคลอไรด์ ชนิดเหลว (LIQUID POLY ALUMINIUM CHLORIDE, PAC) เป็นสารตกตะกอนชนิดใหม่ เริ่มใช้ในประเทศไทยราวปี 253X ซึ่งเดิมมีเพียง ”สารส้ม” เท่านั้นที่เป็นสารตกตะกอนสำหรับผลิตน้ำประปา สารส้มตกตะกอนได้ดี แต่มีข้อจำกัดหลายอย่าง คือ เป็นของแข็ง ไม่สะดวกต่อการนำมาใช้งาน สิ้นเปลืองแรงงานและพลังงานในการทำงานมาก และยังต้องใช้ร่วมกับปูนขาวหรือโซดาไฟเพื่อสร้างตะกอน มากกว่านั้น อาจต้องใช้โพลิเมอร์ ประจุลบเพื่อช่วยในการตกตะกอน ซึ่งประเทศไทยมีฝนตกมาก ทำให้ส่วนใหญ่น้ำดิบจะขุ่นมาก จะใช้ปริมาณสารส้มมาก สร้างความความเหน็ดเหนื่อยอย่างมากต่อผู้ใช้งาน
พีเอซี มีโมเลกุลที่เป็นพอลิเมอร์ เมื่อแตกตัวในน้ำจะมีประจุบวกมาก ทำให้สร้างและตกตะกอนได้ดีกว่าสารส้ม เกือบ 2 เท่าตัว และยังสะดวกในการนำไปใช้ เนื่องจากเป็นของเหลว สามารถจัดเก็บในถังเก็บและจ่ายสารเคมีได้โดยตรง ไม่ต้องทำเป็น dilution ก่อน จึงประหยัดค่าแรงงานและค่าพลังงาน ทั้งยังไม่ต้องใช้สารเคมีอื่นช่วยสร้างและตกตะกอนเมื่อน้ำมีความขุ่นสูง โดยภาพรวม จึงมาช่วยแก้ปัญหาในการปฏิบัติงานของผู้ใช้งานผลิตน้ำประปา จึงเป็นที่นิยมใช้สูงทั่วโลก
ริเริ่มการออกแบบกระบวนการผลิตโดยช่างชาวไต้หวัน โดยเป็นกระบวนการที่ใช้โลหะ อะลูมิเนียม (Al)s ทำละลายด้วย กรดไฮโดรคลอริกเข้มข้น (HCl)aq ได้เป็นสารละลาย อะลูมิเนียมคลอไรด์ (AlCl3)aq และเกิดความร้อนปริมาณมาก กับ ก๊าซไฮโดรเจน (H2)g ซึ่งความร้อนที่เกิดขึ้นเองในปฏิกิริยาจะทำให้ น้ำแตกตัวเป็นประจุ ได้ OH- และ H+ ประจุ OH- จะทำปฏิกิริยากับ AlCl3 ได้เป็น อะลูมิเนียมไฮดร็อกซิลคลอไรด์ ที่มีโมเลกุลโดยประมาณเป็น Al2(OH)Cl5 , Al2(OH)2Cl4 , Al(OH)3Cl3 มากน้อยตามลำดับเวลาทำปฏิกิริยา และเมื่อโมเลกุลเหล่านี้รวมตัวกันเป็นสารประกอบเชิงซ้อน ก็จะได้พอลิอะลูมิเนียมคลอไรด์ชนิดเหลว
ซึ่งมีสูตรโมเลกุลเป็น [Al2(OH)6-nCln]m
และเมื่อแตกตัวในน้ำจะได้ [Al2m(OH)6m-nm]nm+
[Al2m(OH)6m-nm]nm+ จะออกฤทธิ์สร้างตะกอนได้ทันทีเมื่อผสมกับน้ำขุ่น ขนาดของตะกอนโตเร็วแต่ไม่ใหญ่มาก ทำให้มีเวลาลอยตัวในน้ำขุ่นสร้างตะกอนได้นาน และตกตะกอนทันเวลา จึงทำให้ใช้น้อยที่สุด (เมื่อเทียบกับสารตกตะกอนอื่น) เพื่อให้ได้น้ำใสในเกณฑ์ความขุ่นที่กำหนด
บจก.ไทย พีเอซี อินดัสตรี ใช้เศษโลหะอะลูมิเนียมแบบ RECYCLE 100% โดยส่งเสริมธุรกิจรายย่อยหลายรายในการจัดหาของให้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน บจก.ไทย พีเอซี อินดัสตรี ใช้กรดไฮโดรคลอริกที่เกิดจากการดักจับก๊าซคลอรีน ในกระบวนการผลิตก๊าซคลอรีนและโซดาไฟเพื่อไม่ให้หลุดขึ้นไปในชั้นบรรยากาศและเกิดการทำลายชั้นโอโซน ของโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซี ทำให้โรงงานลดค่าใช้จ่ายในการบำบัดน้ำเสียพอสมควร เราใช้กรดนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ปัจจุบันโรงงานมีกรดให้ได้ราว 800 ตันต่อเดือน
การผลิตพีเอซีจำเป็นต้องใช้ความร้อนในการทำปฏิกิริยา ซึ่งจำเป็นต้องมีระบบหม้อต้มไอน้ำ / ไอน้ำมันเพื่อทำความร้อนเข้าสู่ระบบ และจะใช้พลังงานจำนวนมาก แต่กระบวนการผลิตของบจก.ไทย พีเอซี อินดัสตรี จะเกิดความร้อนในปฏิกิริยาขึ้นเองจำนวนมาก เพียงพอต่อการทำปฏิกิริยาจนเกิดเป็นสารพีเอซีขึ้นได้ ไม่มีการใช้พลังงานจากภายนอก จึงไม่มีระบบหม้อต้มไอน้ำ ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิง ช่วยลดภาวะโลกร้อน
ในกระบวนการผลิตสินค้าของบจก.ไทย พีเอซี อินดัสตรี จะมีเพียงน้ำเสียที่เกิดจากการล้างบ่อผลิต, ล้างถังบรรจุสารเคมี, ล้างรถขนส่ง ซึ่งจะมีบ่อรวมน้ำเสีย เมื่อแยกกากที่เป็นขยะ สำหรับจะส่งออกไปบำบัด และฝังกลบที่โรงงานบำบัดกากของเสียอุตสาหกรรม จะเหลือน้ำที่เมื่อผ่านการปรับปรุงคุณภาพ จะนำกลับมาผสมสารเคมีต่อไป จึงไม่มีน้ำเสียปล่อยออกจากโรงงาน
โรงงานที่อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ของ บจก.ไทย พีเอซี อินดัสตรี ใช้พลังงานไฟฟ้าในกระบวนการผลิตน้อยมาก ส่วนใหญ่ใช้ในปั๊มสารเคมี และระบบกรองสารเคมี เมื่อคำนวณค่าไฟฟ้าต่อหน่วย จะใช้เพียง 0.04 บาท/กิโลกรัมพีเอซีที่ผลิต